ประเพณีของพราหมณ์เมืองพัทลุง
การเกิด
เดิมจะถือปฏิบัติกันอย่างไรไม่สามรถสืบทราบได้ ปัจจุบันได้ถือปฏิบัติแบบเดียวกับคนไทยทั่วไป
การตาย
ผู้ที่เป็นพราหมณ์หรือที่มีเชื้อสายพราหมณ์จะนั่งตาย สาเหตุที่พราหมณ์นั่งตายมีเรื่องเล่าทำนองนิทานว่า ในสมัยพระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์อยู่นั้น พระอิศวรกับพระพุทธเจ้าทรงเล่นซ่อนหาโดยพระอิศวรเป็นผู้ซ่อนพระองค์ก่อน โดยลงไปซ่อนที่สะดือทะเล พระพุทธเจ้าทรงหาพบ เมื่อถึงคราวพระพุทธเจ้าพระองค์ทรงเสด็จขึ้นไปซ่อนอยู่ในมวยผมของพระอิศวร พระอิศวรทรงหาเท่าไรก็ไม่พบ จึงทรงเรียกพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงขานรับทำให้เสียงดังไปทั้ง ๔ ทวีป พระอิศวรก็เลยแยกสำเนียงไม่ได้ว่าจะมาจากทิศใดจึงทรงยอมแพ้ต่อพระพุทธองค์ และขอเพียงที่สำหรับพอให้พวกพราหมณ์นั่งตายเท่านั้นนอกจากนั้นไม่ต้องการอะไรอีก พระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาต
เมื่อพราหมณ์คนหนึ่งคนใดตาย การบรรจุโลงต้องทำเป็นรูปโกศรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสยอดแหลมพอให้ผู้ตายนั่งได้ ก่อนบรรจุศพต้องอาบน้ำให้สะอาด ศพต้องนั่งท่าสมาธิ แล้วบรรจุเข้าในโกศให้หันหน้าไปทางทิศอีสานพิธีฝังต้องไปทางทิศอีสาน เมื่อทำพิธีเสร็จแล้วพวกพราหมณ์ทั้งหมดจะกลับไปบ้านเจ้าภาพ แล้วรับประทานข้าวต้มบนครก เป็นอันเสร็จพิธีศพ
สำหรับป่าช้าเมืองพัทลุง เท่าที่ได้ค้นพบในเวลานี้มีอยู่ ๒ แห่ง คือที่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของวัดเขียนบางแก้ว ตำบลจองถนน อำเภอเขาสนชัย ชาวบ้านเรียกว่า “ป่าช้าแขกชี” และป่าช้าที่หน้าวัดดอนกรวด ตำบลปรางหมู่ อำเภอเมืองพัทลุง ซึ่งเป็นป่าช้าที่ใช้อยู่จนทุกวันนี้ เดิมที่หน้าป่าช้านี้มีเสาหงส์ขนาดใหญ่ ๑ เสาต่อมาทางวัดดอนกรวดได้รื้อนำไปทำเป็นเสากุฏิภายในวัด ส่วนตัวหงส์ก็สูญหายไป
การบวช
ผู้ที่จะบวชเป็นพราหมณ์ต้องเป็นผู้ชาย และเป็นบุตรคนแรกของตระกูล อายุ ๔๐ ปี (บางแห่งว่า ๔๒ ปี) จึงจะบวชได้ เพราะถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วและส่วนใหญ่จะผ่านชีวิตครอบครัวมาแล้วเมื่อบวชก็สามารถอยู่กินกับภรรยาได้ในวันบวชพวกญาติพี่น้องจะมานั่งรวมกันในพิธีแล้วพราหมณ์ผู้ทำหน้าที่บวชก็ให้ญาติพี่น้องนำผ้าขาวมาคลุมศีรษะผู้บวช ปลายผ้าทั้งสองให้ผู้ร่วมพิธีจับไว้แล้วโยกศีรษะผู้บวชสลับไปมา พราหมณ์ผู้ทำพิธีก็จะเป็นผู้ให้ศีลให้พร ก็เป็นอันเสร็จพิธีถือว่าเป็นพราหมณ์ได้ เรียกพราหมณ์แบบบวชนี้ว่า “พราหมณ์ญัติ” หรือ “พราหมณ์บัญญัติ”
การแต่งงาน
สมัยเดิมจะเป็นอย่างไรไม่สามารถสืบทราบได้ ปัจจุบันการแต่งงานของพราหมณ์ก็เช่นเดียวกับการแต่งงานของคนไทยทั่วๆ ไปแต่ถ้าหญิงพราหมณ์แต่งงานกับชายไทยถือว่าผู้นั้นจะขาดความเป็นพราหมณ์บุตรชายที่เกิดขึ้นจะเป็นพรตเป็นพราหมณ์ไม่ได้
การแต่งกาย
โดยทั่วไปแล้ว พราหมณ์จะนุ่งห่มด้วยผ้าขาว คือ เสื้อขาวธรรมดา ๑ ตัว ผ้าโจงกระเบน ๑ ผืนแต่ถ้าทำพิธีพราหมณ์จะใส่เสื้อยาวแบบราชปะแตนสีขาวคลุมทับเสื้อใน สวมหมวกแบบถุงแป้ง ห้อยคอด้วยลูกประคำ