หอยสังข์
ถือว่าเป็นสิ่งมงคลทั้งในศาสนาพุทธและทางฮินดู ด้วยเชื่อว่าเปลือกหอยสังข์เป็นของวิเศษ นำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลมากมาย สามารถป้องกันภูติผีปิศาจ ป้องกันอัคคีภัย และสิ่งอัปมงคลต่างๆ ได้
ในศาสนาฮินดู ถือว่าเปลือกหอยสังข์นั้นเป็นสิ่งมงคล เพราะสังข์นั้นได้กลืนเอาคัมภีร์พระเวทลงไปในท้อง อีกทั้งตรงปากสังข์ยังมีรอยพระหัตถ์ของพระวิษณุประทับอยู่ตรงนั้นอีกด้วย อันถือว่าเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง
เมื่อใครจะทำการมงคลใดก็ให้นำน้ำใส่ลงไปในสังข์แล้วเทออกมารดถือว่าเป็นมงคลยิ่ง อีกทั้งถ้านำสังข์มาเป่าให้เป็นเสียงดัง เสียงของสังข์นั้นก็จะดังคล้ายเสียง “โอม” ซึ่งเป็นพยางค์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู เสียงของสังข์นั้นจะก่อให้เกิดมงคลมากมาย อีกทั้งยังขับไล่ภูตผีปิศาจให้จากไปจากครอบครัวเราได้ด้วย
ชาวพุทธมหายานก็เชื่อกันว่าสังข์นั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 8 เครื่องมงคลอันเป็นเครื่องแทนพระวรกายของพระพุทธเจ้า โดยกล่าวว่าสังข์นั้นเป็นเครื่องแทนพระเกศาของพระพุทธองค์ และยังเป็นเครื่องแทนพระสุรเสียงแห่งพระธรรมที่พระศาสดาได้ประกาศไว้ให้กึกก้องไปทั่วทุกสารทิศ
ดังนั้นจึงถือได้ว่าสังข์นั้นเป็นสิ่งที่เป็นมงคล ที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องประดับร่างกายให้ความคุ้มครองดวงชะตา โดยการนำเปลือกของหอยสังข์มาตัดจุกที่อยู่ด้านบนสุดบ้าง (ส่วนที่เหลือจะเป็นสังข์ที่นำมาใช้เป่า) หรือ นำเปลือกหอยสังมาเจียรให้เป็นกำไล เป็นสร้อยไว้สวมใส่บ้าง และจะเรียกสังข์ที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องประดับตบแต่งร่างกายนี้ว่า “สังขมณี” โดยถือว่าเป็นหนึ่งในมณีสำคัญชนิดหนึ่งที่ชาวฮินดูจัดไว้ในคัมภีร์ครุฑปุราณะ ว่าด้วยเรื่องของอัญมณีที่ใช้แทนดวงดาวเลยทีเดียว
ในครุฑปุราณะกล่าวไว้ว่า สังข์นั้นเป็นของมงคล เป็นอัญมณีตัวแทนของพระจันทร์ มีพลังในการการคุ้มครองดวงชะตาสูง อีกทั้งยังช่วยบรรเทาผลร้ายที่เกิดจากดาวนพเคราะห์ให้เจือจางเบาบางลงได้อีกด้วย โดยสามารถใช้แทนไข่มุกได้
ดังนั้นสังขมณีจึงเหมาะกับทุกคน ไม่จำเป็นว่าต้องเจาจงจำเพาะว่าต้องเป็นคนที่เกิดวันจันทร์เท่านั้น เพราะในตำราได้กล่าวไว้ว่าไม่มีดาวใดเป็นศัตรูกับพระจันทร์เลย ดังนั้นจึงสามารถใส่ได้ทุกคน
แล้วยังมีหอยอีกชนิดหนึ่งซึ่งชาวอินเดียนิยมนำมาทำเครื่องประดับกันมาก ด้วยถือว่าให้ผลเฉกเช่นเดียวกับเปลือกหอยสังข์นั่นก็คือหอยที่บ้านเราเรียกว่า “หอยนมสาว” ชนิดที่ถูกนำมาขัดให้มีสีขาวนวลเป็นมันวาวไม่มีลายอื่นมาปะปน ถือว่าเป็นสังข์ของพระศุกร์ นำมาตัดจุกใช้เป่าเรียกเงินเรียกทองได้อีกด้วย
อำนาจศักดิ์สิทธิ์ของ"สังข์"
ความเชื่อของชาวฮินดูเกี่ยวกับสังข์
1.จะไม่ขาดแคลนเงินทอง อาหาร และเสื้อผ้า ได้ที่อยู่อาศัยที่สุขสบาย
02.นำความสุขความสงบมาสู่เคหะสถานบ้านช่อง หรือสถานที่ที่สังข์ตั้งอยู่
03.นำความร่ำรวยมั่งคั่งมาสู่เคหะสถานบ้านช่องนั้นๆ
04.น้ำที่บรรจุไว้ในขอนสังข์ และตั้งทิ้งไว้หนึ่งวัน จะศักดิ์สิทธิ์ดุจน้ำในแม่น้ำคงคา
05.นำความปรองดอง และหวานชื่นมาสู่คู่สมรส เป็นอมตะดุจพระรามและสีดา,ดุจกฤษณะและราธา,ดุจดั่งพระศิวะและพระแม่อุมาเทวี,ดุจดังพระนารายณ์และพระแม่ลักษมีเทวี
06.ทำให้เกิดสติปัญญา และความทรงจำอันล้ำเลิศ ,มีปฎิภาณอันประเสริฐ
07.ภูตผีปีศาจ มนต์ดำและคุณไสยทั้งปวงไม่อาจเข้าใกล้สถานที่ที่มีสังข์เก็บรักษาอยู่
08.น้ำที่หลั่งจากสังข์ หากนำมารดให้กับคนหรือสถานที่ จะสามารถขับไล่ภูตผีปีศาจ มนต์ดำ และสิ่งอัปมงคลทั้งปวงได้
09.จะอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติและข้าทาสบริวารมากมาย
10.ผู้ที่บูชาสังข์ทุกวันจะได้รับการอวยพรจากองค์พระนารายณ์จนวาจาเป็นประกาศิต
11.น้ำที่บรรจุในสังข์และหากนำมาทำการประทักษิณรอบเทวะรูปแล้ว น้ำนั้นเมื่อ
นำมารดผู้ใด จะทำให้ผู้นั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ปราศจากมลทิน และสำนึกบาปทั้งปวงแล้วจะมีจิตสำนึกคนนั้นจะกลายเป็นคนดีตลอดกาล
ดั้งนั้น หากท่านไม่สามารถหาสังข์ทักษิณาวรรตมาครอบครองได้ ก็ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนหา เพราะท่านสามารถใช้สังข์ธรรมดาแทนได้ เพียงแต่ให้เป็นสังข์อินเดียที่ถูกต้อง และถูกลักษณะก็พอ เพราะคนอินเดียเองส่วนใหญ่ก็ใช้สังข์อุตราวัฏธรรมดาเหมือนกัน
วิธีบูชาสังข์
01.ให้หาพานทองมาใช้สำหรับมาวางสังข์เปรียบเหมือนกับเอาทองมาหนุนเงินเพราะสังข์หมายถึงเงิน
02.หันปากสังข์ไปทางทิศตะวันออก เติมน้ำลงในสังข์
03.ให้ถวายต้นกระเพรา หรือใบมะตูม พร้อมสวดมนต์บูชาสังข์ว่าดังนี้…
“โอม มาหาเดไว ชาวิดมาเฮ วิษนุปัตนี ชาดีมาฮี ตันโน ลักษมี ประโชดายาต
โอม ปันจาจันยายา วิดมาเฮ ปัดมา การบายา ดีมาฮี ตันโนสังข์กา ประโชดายาต”
สังข์
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า (Turbinella Pyrun) ที่เรียกว่า “มหาสังข์” ก็เพราะว่าเป็นหอยทะเลกาบ ที่มีความวิจิตรตระการในตัวเอง ใช้สำหรับการเป่าหรือหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ หรือน้ำเทพมนต์ ในพระราชพิธีชั้นสูง หรือในพิธีการสูงสุดของศาสนาต่างๆ ตั้งแต่ พุทธ คริสต์ อิสลาม เชน ชินโต ฮินดู และลัทธิบอนของชาวทิเบตโบราณ
เสียงสังข์ สามารถล้างอาถรรพ์และขับไล่พลังงานด้านลบได้ทุกประเภท
งานค้นคว้าด้าน การบำบัด พบว่า สังข์เป่า (Chank Trumpet) สามารถกระตุ้นเซลล์หรือพลังงานภายในร่างกาย และจิตวิญญาณได้ดีทั้งนี้เพราะว่าย่านความถี่ (Freequency) ของสังข์นั้นจะสามารถกระตุ้นธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ และวิญญาณธาตุ ให้แก่ผู้เป่าหรือผู้ที่รับการบำบัดโดยเฉพาะ เมื่อผู้เป่า สังข์ รวบรวม สมาธิ และจิตใจอันบริสุทธิ์ เสียงที่กังวานออกจากสังข์ก็จะเพิ่มความเข้มข้นของสนามพลังงานทางชีวภาพได้อย่างดีเสียงกระตุ้นพลังวิญญาณ และธาตุแท้ภายในของประจุโปรตรอน และอีเลคตรอน ให้ขั้วแม่เหล็กไฟฟ้าในสนามชีวภาพเกิดความสมดุลย์ กระทั่งเกิดสภาวะปิติ ซาบซ่าน ทั่วรรพางค์กาย